วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทที่ 9
การซ่อมบำรุงเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
• กล่าวนำทั่วไป
เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานการซ่อมบำรุงเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ในขั้นต้น เพื่อประโยชน์ในการใช้งานเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ระดับหน่วยใช้ต่อไป

• นานาอาการ…ที่เกิดกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer)
ในหัวข้อนี้ จะเป็นการเล่าถึงประสบการเล็ก ๆ น้อยที่เคยพบมาเกี่ยวกับการใช้งาน การซ่อมบำรุงเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาได้มีแนวทางในการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหากับเครื่องที่ท่านใช้งานอยู่หรือที่ท่านรับผิดชอบอยู่ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงแนวทางในการแก้ปัญหาเท่านั้น อาจจะไม่ใช่หนทางปฏิบัติที่ถูกต้องเลยทีเดียว และถ้าหากท่านผู้ใดมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็ขอความกรุณาแจ้งให้ผู้เขียนได้ทราบด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง
• ดู VDO-CD แล้วภาพกระตุก
สาเหตุที่ 1 เกิดจากการใช้สายสัญญาณควบคุมเส้นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ ให้แยกสายออกซะ
สาเหตุที่ 2 เกิดจากเรียกใช้คำสั่ง MSCDEX ก่อนสตาร์ตวินโดว์ ให้เอาคำสั่งนี้ใน Autoexec.bat ออก
สาเหตุที่ 3 เกิดจากการปรับจำนวนสีและความละเอียดมากเกินไป ให้ปรับมาที่ 640 x 480 ที่ 256 สี
สาเหตุที่ 4 เกิดจากเครื่องอ่าน CD-ROM มีปัญหา หรือ หัวอ่านสกปรก หรือแผ่น VCD เอง
สาเหตุที่ 5 เกิดจากไดรเวอร์ของการ์ดแสดงผลจอภาพถูกติดตั้งไม่สมบูรณ์
• ปรับความละเอียดสูงเกินไป ภาพในวินโดว์ล้มดูไม่รู้เรื่อง
1. ให้กดปุ่ม Ctrl + Alt + Del แล้วปล่อย จากนั้นก็กด Alt + S เพื่อ Shutdown
2. ตอน Restart วินโดว์ให้กดปุ่ม F8 แล้วเลือก Self Mode
3. ปรับกลับเหมือนเดิม แล้วรีสตาร์ตวินโดว์ใหม่
• Restore Registry ติดตั้งวินโดว์หลายครั้งก็ไม่หาย Format ใหม่ก็ยังไม่ได้
เปลี่ยน Ram ใหม่
• เครื่อง Boot เองบ่อยครั้ง
สาเหตุที่ 1 เกิดจาก Virus
สาเหตุที่ 2 เกิดจากการรวนของ Ram , Main board หรือไม่ก็ Controller ซึ่งก็ติดอยู่บนบอร์ดอยู่แล้ว ขั้นแรกก็ลองเปลี่ยนแรมดูถ้ายังไม่หายก็เปลี่ยนบอร์ด
• ติดตั้งวินโดว์ไม่ได้ ติดตั้งไปได้ส่วนนึ่งแล้วค้างทุกครั้ง
สาเหตุเกิดจาก กำหนดค่าใน Boot Protection ใน CMOS เป็น Enable ให้แก้เป็น Disable
• ปิดวินโดว์แล้วช้ามากหรือมักจะค้างบ่อย ต้องกดรีเซ็ตแทบทุกที
สาเหตุที่ 1 เกิดจากฮาร์ดดิสก์มีปัญหา ให้ลอง Scandisk ดู หาก Scandisk ตรวจสอบช้าผิดปกติ หรือ มีเสียงดังมาก คาดว่าฮาร์ดดิสก์มีปัญหา อาจจะใกล้เสียหรืออาจจะเสียแล้วก็ได้ เพราะถ้าเป็นลักษณะนี้ เมื่อFormat ใหม่ก็จะใช้การไม่ได้ไปเลย
สาเหตุที่ 2 เกิดจากตัววินโดว์มีปัญหา หาก Scandisk แล้วไม่เจอปัญหาก็ให้ติดตั้งวินโดว์ใหม่หากติดตั้งวินโดว์ทับลงไปแล้วยังมีปัญหาให้ติดตั้งโดยลบวินโดว์ตัวเก่าออก
• ฮาร์ดดิสก์ไม่บูตทั้ง ๆ ที่มี System อยู่แล้ว CMOS ก็ AutoDetect
สาเหตุที่ 1 ติดไวรัส
สาเหตุที่ 2 เกิดจากตอนสร้างพาร์ติชันโดยใช้คำสั่ง Fdisk ในขณะนั้นต่อเป็นไดรว์ D อยู่ ซึ่งพาร์ติชัน
ที่แอคทีฟอยู่เป็นไดรว์ C ให้แก้ไขดังนี้
1. ใส่แผ่นบูตที่มีซิสเต็มพร้อมกับคำสั่ง Fdisk
2. พิมพ์ Fdisk
3. กด 2 เพื่อเลือก Active Partition
สาเหตุที่ 3 เกิดจาก Cmos ออโต้ดีเทคไม่ถูกต้อง ค่าของฮาร์ดดิสก์เวลาที่ AutoDetect จะมี 3 ค่าคือ
1. Normal
2. LBA
3. Large
วิธีแก้ คือ ให้ไปที่ Cmos แล้ว AutoDetect ใหม่ โดยเลือกทั้ง 3 ตัวเลือกให้ครบ
• ใช้ดิสก์บูตจากไดรว์ A แล้วมองไม่เห็นฮาร์ดดิสก์
สาเหตุที่ 1 เกิดจากไวรัสบางตัว เช่น Gateway 2000 ทำให้มองไม่เห็นหากบูตกับไดรว์อื่นที่ไม่ใช่ตัวมัน
สาเหตุที่ 2 เกิดจากฮาร์ดดิสก์ถูก Compress โดยใช้ Software บางตัว เช่น Stacker,Drive Space
สาเหตุที่ 3 เกิดจากฮาร์ดดิสก์ใช้ซิสเต็มของวินโดว์ 95 OSR และทำ FAT32 แต่ซิสเต็มที่ใช้ Boot ในแผ่นเป็นเวอร์ชันตั้งแต่ Windows 95 ธรรมดาลงมาทำให้มองฮาร์ดดิสก์ที่เป็น FAT32 ไม่เห็น
• ฮาร์ดดิสก์ไม่เสียแต่ CMOS ไม่ยอม AutoDetect
เกิดจากเทคโนโลยีของ Controller กับ Harddisk ไม่สัมพันธ์กัน ปัญหานี้จะเกิดกับเครื่องรุ่นเก่า ที่เจ้าของเครื่องไม่อยากซื้อเครื่องใหม่แต่อยากได้ฮาร์ดดิสก์ความจุสูง ๆ เช่น นำฮาร์ดดิสก์ 6 GB มาใช้กับเครื่อง 486DX-33
• ต่อฮาร์ดดิสก์เป็นไดรว์ D แล้วมองเห็นแต่ไดรว์ C หรือ ไม่เห็นทั้งคู่
เกิดจากความไม่เข้ากันของฮาร์ดดิสก์บางรุ่นและบางยี่ห้อ ให้ลองสลับฮาร์ดดิสก์ดู คือจากไดรว์ C Jumper เป็นไดรว์ D ส่วนไดรว์ D ก็เป็นไดรว์ C บ้าง
• ใช้งานได้แค่ 16 สี ปรับสูงกว่านี้วินโดว์ไม่ยอมรับ
สาเหตุที่ 1 เกิดจากวินโดว์ไม่สามารถ Detect การ์ดแสดงผลของเครื่องคุณ จึงใช้ค่า Default แก้ไขโดยการติดตั้งไดรเวอร์ที่ถูกต้อง
สาเหตุที่ 2 เนื่องมาจากวินโดว์ Detect การ์ดจอผิดยี่ห้อหรือผิดรุ่น ทำให้ไดรเวอร์ที่ถูกติดตั้งใช้ กับการ์ดแสดงผลไม่ได้
สาเหตุที่ 3 เกิดจากการซ้อนทับของไดรเวอร์ แม้จะเป็นไดรเวอร์ของการ์ดแสดงผลเอง
วิธีแก้ไขของทั้ง 3 สาเหตุที่กล่าวมาโดยการเข้าไปลบไดรเวอร์ใน System Properties ในส่วนของ Display Adapter ดังนี้

1. คลิ๊กขวาที่ My computer แล้วเลือก Properties หรือ เปิดไอคอน System ใน Control Panel
2. ที่หน้าต่าง Device Manager ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Display Adapter
3. ลบไดรเวอร์ใน Display Adapter ให้หมด หรือเหลือเฉพาะตัวที่ต้องการ
4. รีสตาร์ตวินโดว์ใหม่
สาเหตุที่ 4 เกิดจากค่า Interrupt ของไดรเวอร์ของการ์ดแสดงผลไม่ตรงกับของตัวการ์ดแสดงผล ให้เข้าไปแก้ใน Perperties ของไดรเวอร์อยู่ใน
System Properties -> หน้าต่าง Device Manager -> Display Adapter
-> ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไดรเวอร์ -> หน้าต่าง Resource -> คลิ๊ก เอาเครื่องหมายถูกที่
Use Automatic Setting ออก แล้วตั้งค่าเอง
• ไดรว์ A เสียจริงหรือ
1. หัวอ่านอาจสกปรก ให้ใช้แผ่นล้างไดรว์ทำความสะอาดดู
2. หากยังไม่หาย ลองเอาไปใส่เครื่ออื่นดูว่าใช้ได้หรือไม่
3. หากยังใช้ไม่ได้ก็น่าจะเสียจริง ๆ
• สัญญาณเตือนว่าฮาร์ดดิสก์ใกล้เสีย
ฮาร์ดดิสก์ที่ใกล้จะเสียจะมีอาการใดอาการหนึ่ง หรือ หลายอาการรวมกัน
1. มีเสียงดังผิดปรกติ
2. ทำงานช้า
3. Scandisk เจอ Error บ่อย
4. ทำงานบ้างไม่ทำงานบ้าง
5. บูตได้บ้างไม่ได้บ้าง
คำแนะนำ หากฮาร์ดดิสก์ของท่านมีอาการดังที่กล่าวมานี้ ขอแนะนำว่าให้รีบหาทางแบคอัพข้อมูล โดยเร่งด่วน และไม่ควรเก็บข้อมูลใด ๆ ลงในฮาร์ดดิสก์อีก เพราะไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อใหร่เสีย
หมายเหตุ อาการในข้อ 2-5 อาจเกิดจาก Ram หรือ Controller มีปัญหา ไม่ได้เกิดจากตัวฮาร์ดดิสก์เองก็เป็นได้
• สัญญาณเตือนว่า CD-ROM ใกล้เสีย
1. อ่านแผ่นไม่ค่อยจะผ่าน
2. เสียเวลา Seek อยู่นานกว่าจะอ่านได้ หรือ อ่านแล้วค้างเป็นช่วง ๆ
3. Eject ไม่ค่อยทำงาน กดแล้วแผ่นไม่ยอมออกมา
4. มองไม่เห็นข้อมูลในแผ่น โดยจะมองเห็นเป็นแผ่นว่าง
• หมึกเครื่องพิมพ์ชนิดพ่นหมึกอุดตัน
หากเครื่องพิมพ์ชนิดพ่นหมึกไม่ได้ถูกใช้งานไปนาน ๆ จะทำให้หมึกที่หัวฉีดอุดตัน วิธีแก้ก็คือ ให้นำหัวพ่นหมึกที่อุดตันมาแช่ในน้ำอุ่น โดยหย่อนลงไปแล้วยกขึ้นมา แต่อย่าแช่ไว้
• วิธีการทำความสะอาดหัวอ่านของไดรว์ หากใช้แผ่นล้างไม่ได้ผล
หมายเหตุ ก่อนจะทำคุณต้องแน่ใจว่าไดรว์ของคุณหมดประกันไปแล้ว
1. ถอดไดรว์ออกจากตัวเครื่อง
2. ถอดฝาครอบไดรว์ออก
3. หัวอ่านของไดรว์ก็เหมือนกับของหัวเทป ให้ทำความสะอาดทั้งบนและล่าง
4. ทำความสะอาดโดยการใช้คอตตอนบรัสชุบน้ำยาล้างหัวไดรว์ แล้วเช็ดสิ่งสกปรกออก หากไม่มีน้ำยาล้างก็ใช้น้ำเปล่าแทนก็ได้
5. ใช้ปลายอีกด้านหนึ่งที่แห้งเช็ดซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง
• เปิดเครื่องแล้วมีข้อความว่า Low Batt หรือ Cmos Error หรือ Cmos type mismath
เกิดจากแบตเตอรี่ที่อยู่ในเมนบอร์ดหมดอายุการใช้งาน ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แบตเตอรี่มี 3 แบบ
1. เป็นก้อนกลม ๆ ถูกบัดกรีติดบอร์ด
2. เป็นแท่งสี่เหลี่ยมติดบอร์ด
3. เป็นถ่านก้อนกลมแบนแบบที่ใช้ในนาฬิกาข้อมือ หรือ เกมส์กด
• เปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วแต่ Cmos ก็ยังไม่ยอมเก็บค่า
เกิดจากปัญหาของตัวรอม Cmos เอง ปัญหานี้เจอบ่อยในบอร์ดราคาถูก
• หน่วยความจำหายไปครึ่งหนึ่ง
สมมุติว่าเครื่องของคุณมี Ram 512 MB วันดีคืนดีกลับเหลือเพียงครึ่งเดียว
สาเหตุที่ 1 เป็นที่ Ram คุณภาพไม่ดี จะเจอใน Ram Remark หรือ ของปลอม
สาเหตุที่ 2 เป็นที่ Mainboard มีปัญหา
• Save , Open ไฟล์ใน Msword ไม่ได้
สาเหตุไม่ได้มาจากตัว Msword แต่มาจากวินโดว์ กับ หน่วยความจำ หากวินโดว์ไม่สเถียรหรือหน่วยความจำมีน้อยจะเกิดปัญหานี้ขึ้น ไม่นับไวรัสนะ
• แก้ปัญหาวินโดว์มองไม่เห็น CD-ROM
วิธีที่ 1 Add new Hardware ใหม่
วิธีที่ 2 ติดตั้งไดรเวอร์ในดอสให้ดอสเรียกใช้ CD-ROM ก่อนจะสตาร์ตวินโดว์
วิธีที่ 3 ติดตั้งวินโดว์ใหม่
• ใช้งานวินโดว์อยู่แล้วค้าง
รายละเอียดของอาการที่เกิดขึ้น
1. บางครั้งใช้งานอยู่ 3-4 ชั่วโมง แล้วค้างไปเลย ต้องกดรีเซ็ตใหม่
2. หลังจากสตาร์ตวินโดว์ใหม่ก็ใช้งานได้อีก
3. จากข้อ 2 อาจเกิดอาการดังข้อ 1 หรือเป็นปกติ
สาเหตุ
เกิดจากไวรัสหรือโปรแกรมฝังตัวในหน่วยความจำรบกวนการทำงานของวินโดว์ เช่น Norton Antivirus , Antivirus Card เป็นต้น หรือ เกิดจากตัววินโดว์มีปัญหาซะเอง แต่จากอาการค้างในข้อ 1 เมื่อทำตามข้อที่ 2 แล้วยังค้างอยู่โดยเวลาก่อนจะค้างสั้นลง เช่น สักครู่ก็ค้าง หรือ 5 นาทีก็ค้าง ก็น่าจะเกิดจาก Ram หรือ Mainboard มีปัญหา
• เปิดเครื่องทิ้งไว้แล้วจอดับเอง ทำอย่างไรก็ไม่ติด ต้องปิดเครื่องเปิดใหม่
สาเหตุที่ 1 เกิดจากการเลือกใช้ฟังก์ชันประหยัดพลังงานของจอภาพ (Monitor Energy Saving) มี 2 ที่ คือ
1. ใน Screen Saver ที่ Shut Off Monitor
2. ใน Cmos
วิธีแก้ไขต้องยกเลิกการใช้ฟังก์ชันนี้
• ต่ออินเตอร์เน็ตแล้วสายหลุดบ่อย
1. เกิดจากสายโทรศัพท์ภายใน อับชื้น หรือ สกปรก
2. เกิดจากสายหรือตู้สาขาของผู้ให้บริการโทรศัพท์ เช่น TT&T หรือ องค์การโทรศัพท์
3. เกิดจากโมเด็มมีปัญหา
4. เกิดจากการใช้บริการสายเรียกซ้อน (ต้องยกเลิกการบริการเรียกซ้อน)
• เปิดเครื่องครั้งแรกแล้วค้างทุกครั้ง ต้องรีเซ็ตใหม่แล้วใช้งานได้ตามปกติ
เกิดจากเมนบอร์ดรวนครับ
• ตัวปรับเสียงของวินโดว์หาย (Volume Control)
ในบางครั้งคุณพบว่าตัวปรับเสียงของคุณไม่มี เป็นไปได้อย่างไรกัน! ลองเข้าไปดูใน Control Panel -> Multimedia แล้วก็ติดตั้งไดรเวอร์ซาวด์เรียบร้อยดี ทุกอย่างก็ปกติ แต่กลับคลิ๊กที่ Show Volume Control on taskber ไม่ได้ อันที่จริงตัวปรับเสียงของวินโดว์ก็คือไฟล์ SNDVOL32.exe อยู่ในไดเรกทอรี่ ของวินโดว์นั่นเอง วิธีแก้ไขก็เพียงแต่ไปหาไฟล์นี้มาใส่ในวินโดว์ โดยไปหาจากวินโดว์ตัวอื่น หรือ จะใช้ Add/Ramove ก็ได้ โดยเลือกเพิ่ม Volume Control
• เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วไฟติดปุ๊บก็ดับปั๊บ
สาเหตุที่ 1 เกิดจากไฟรั่วที่จุดใดจุดหนึ่งทำให้มีการลงกราวด์ในตัวเครื่อง Power Supply พอวงจรรักษาความปลอดภัยของ Power Supply ตรวจพบจึงทำการตัดการจ่ายไฟ
วิธีแก้ไข ให้หาสาเหตุที่กระแสลัดวงจร โดยมากจะเป็นที่ตัวถังกับตัว Power Supply
สาเหตุที่ 2 เกิดจากระบบไฟในบ้าน หรือ ตัว Power Supply คุณภาพต่ำขาดความสเถียร จึงจ่ายไฟได้ไม่เต็มที่ วงจรรักษาความปลอดภัยตรวจพบข้อบกพร่องในตัวเอง จึงตัดการทำงาน ในบางตัวอาจพบว่ามีกระแสไหลย้อนกลับ หลังจากปิดสวิทช์ไฟแล้ว จากที่ผมเคยเจอมาก็คือ เมื่อเปิดเครื่องไฟจะติดและดับทันที อุปกรณ์อย่างอื่นก็หยุดทำงาน แต่เมื่อปิดสวิทช์กลับมีไฟย้อนกลับเข้ามาแป๊บนึง
วิธีแก้ไข ให้เปลี่ยน Power Supply ตัวใหม่ และต้องเลือกตัวที่มีคุณภาพใช้ได้ ที่ต้องเปลี่ยน เพราะว่า Power Supply ตัวเดิมนั้นไม่เสีย แต่คุณภาพต่ำ
• เมื่อวินโดว์บอกคุณว่า ! หน่วยความจำไม่พอ !
สาเหตุที่หน่วยความจำไม่พอนั้นเกิดจากการที่วินโดว์ ใช้ทรัพยากรหน่วยความจำนั้นจนหมด แต่ต้องการอีก จึงรายงานขึ้นมา หรือ แอพพลิเคชั่นที่เปิดตัวล่าสุดมีขนาด ใหญ่เกินกว่าที่หน่วยความจำของเครื่องคุณจะรับได้ (รวม Swap ไฟล์ในฮาร์ดดิสก์ด้วยนะ) หรือ อาจจะติดไวรัสก็ได้
ค้นหาสาเหตุ
1. ตรวจสอบไวรัส
2. ตรวจสอบหน่วยความจำในเครื่อง( ให้ตรวจสอบกับดอส )
3. ตรวจสอบเนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์
4. ตรวจสอบ Application หากไม่เจอสาเหตุที่กล่าวมา ให้ติดตั้งวินโดว์ใหม่
• สาเหตุที่วินโดว์ 95/98 รวน
สาเหตุเกิดขึ้นได้ดังนี้
สาเหตุที่ 1 เกิดจากบอร์ดรวน ยังงี้ก็ต้องเปลี่ยนบอร์ดอย่างเดียว อย่าซ่อมเชียวนะครับ เดี๋ยวจะเสียเงินไปโดยไม่ได้อะไรขึ้นมา
สาเหตุที่ 2 เกิดจาก Controller รวน อันนี้ถ้าหากเป็น Controller ที่เป็นการ์ดเสียบแยก ก็ง่ายที่ จะเปลี่ยน แต่ถ้าเป็น Controller ที่ติดมาบนบอร์ด ก็พอทำได้ดังนี้
1. ปิดการทำงานของ controller ใน Cmos ของเมนต์บอร์ด
2. นำ Controller ที่ต่อภายนอกเสียบแทน
3. หากไม่มี Controller แบบภายนอก ก็ต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่แล้วละครับ สมัยนี้ controller แบบเสียบแยก หายากมาก เพราะเลิกผลิตไปแล้ว
สาเหตุที่ 3 เกิดจาก Ram รวน ให้ลองถอด Ram ชุดเก่าออก เอา Ram ชุดใหม่ใส่แทน แล้วใช้งานดูสักระยะหนึ่งหากไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้เอา Ram เก่าใส่กลับเข้าไปหากมีอาการรวนอีก ก็น่าจะเป็นที่ Ram
สาเหตุที่ 4 อาจเกิดจากวินโดว์รวน ให้ลองติดตั้งวินโดว์ใหม่ดู วินโดว์รวนเป็นเรื่องธรรมดา ในปัจจุบันเพราะตัววินโดว์เองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีแต่บั๊กทั้งนั้น
สาเหตุที่ 5 อาจเกิดจากติดไวรัส ลองใช้ Software ตรวจสอบไวรัสดู แนะนำให้ใช้ Pc-Cillin 6
สาเหตุที่ 6 เกิดจากซอร์ฟแวร์ต่อต้านไวรัส เนื่องจากการที่ซอร์ฟแวร์เหล่านี้จำเป็นต้อง ฝังตัวในหน่วยความจำคอยตรวจสอบไวรัส แต่เนื่องจากการทำงานแบบนี้ จำเป็นต้องตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมที่เรียกใช้งานทุกตัว ในบางครั้ง จึงเป็นตัวต้นเหตุให้เครื่องรวน หรือ ค้างได้ ให้ปิดการทำงานในส่วนตรวจสอบซะ ค่อยเปิดใช้เวลาต้องการ
สาเหตุที่ 7 เกิดจาก Anti virus Card ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับซอร์ฟแวร์นั่นแหละ แต่เป็นตัวทำให้เครื่องมีอาการใกล้โคม่ากว่าซอร์ฟแวร์เยอะ ทางที่ดีถอดออกเลยดีกว่า เวลาต้องการใช้ค่อยเสียบกลับ
สาเหตุที่ 8 เกิดจาก Harddisk ไม่สเถียรทำให้เนื้อที่ ที่ใช้เป็น Swap ไฟล์มีปัญหาให้ใช้ คำสั่ง Scandisk ตรวจสอบดู
สาเหตุที่ 9 เกิดจากค่า IRQ ของ Hardware บางตัวชนกัน ควรเข้าไปตรวจสอบดูใน System Properties
สาเหตุที่ 10 ใช้ไดรเวอร์ไม่ถูกต้อง เช่น ติดตั้งไดรเวอร์ของวินโดว์ 3.1 บนวินโดว์ 95 หรือ ใช้ไดรเวอร์ของดอส
สาเหตุที่ 11 ใช้ไดรเวอร์ผิดเวอร์ชั่น
สาเหตุที่ 12 ไดรเวอร์ไม่สมบูรณ์ ควรเข้าไปตรวจสอบดูใน System Properties
สาเหตุที่ 13 ความไม่เข้ากันของ Hardware เช่น CD-ROM กับ Hard disk ไม่เข้ากัน อย่างบางตัวพอใช้ร่วมกันทีไรเครื่องรวนทุกที
• ปรับความละเอียดของจอภาพไปที่ 800 X 600 แล้วภาพล้ม
เกิดจากประสิทธิภาพของจอไม่มีความสามารถพอ ไม่สามารถรับแบนวิธที่สูง ๆ ได้ในโหมด 640 X 480 จะสามารถตั้งแบนวิธที่ 75 Hz ได้ แต่เมื่อปรับเป็นโหมด 800 X 600 ค่าแบนวิธยังคงเดิม คือ 75 Hz ทำให้จอภาพไม่สามารถแสดงผลได้ หากต้องการปรับเป็น 800 X 600 ก็ต้องไปปรับแบนวิธให้เป็น 60 Hz ก่อนหรือปรับเป็นค่า Default ก็ได้
คุณสามารถเข้าไปปรับค่าต่าง ๆ ได้ใน Display Properties -> หน้าต่าง Settings -> Advance Properties -> Refresh Rate แต่จอของคุณ จะสั่นมากจนปวดตา ปัญหานี้มักจะเจอกับจอภาพรุ่นเก่า
• เวลาไม่ใช้งานไปสักพัก ฮาร์ดดิสก์จะหยุดทำงาน พอจะใช้งานต้องรอให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานก่อน
เกิดจากการตั้งค่าการประหยัดพลังงานให้ Hard disk ให้ยกเลิกค่านั้นซะ โดยการเข้าไปแก้ใน Cmos
• เม้าล์ฝืด ใช้งานไม่คล่องเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ
เกิดจากเม้าล์สกปรกครับ เวลาใช้งานอยู่จะเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่ลูกกลิ้งของเม้าล์ ทำให้ขี้ฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้ามาเกาะที่ลูกกลิ้ง และเมื่อลูกกลิ้งเสียดสีกับแกนหมุนที่คอยรับทิศทางการเคลื่อนไหวของลูกกลิ้ง ขี้สกปรกเหล่านั้นก็จะไปติดที่แกนเหล่านั้น
วิธีแก้ไขให้เปิด ฝาล็อกลูกกลิ้งของเม้าล์ที่ด้านล่างออกมาแล้วทำความสะอาด
• ฟอนต์มีปัญหา สั่งพิมพ์แล้วสระหาย
เกิดจากการใช้ฟอนต์ตระกูล UPC บางตัว ให้หลีกเลี่ยงการใช้ฟอนต์ชนิดนี้ ไปใช้ฟอนต์ตระกูล JS,DB
• เครื่องพิมพ์ชนิด Laser พิมพ์(อะไรก็ได้)ออกมาแล้วมีรอยด่าง ๆ ดำ ๆ ออกมาด้วย
รอยด่างเกิดจากผงหมึกเลอะครับ ให้ทดลองพิมพ์ซ้ำ ๆ ซัก 4-5 แผ่น แล้วสังเกต ดูว่ารอยเปื้อนนั้นลดลงหรือไม่ แต่หากรอยเปื้อนยังอยู่เหมือนเดิมที่จุดเดิม ก็ให้ถอดตัวคาทริดของเครื่องพิมพ์ออกมา ดูว่าที่แกนของตัวคาทริดมีรอยเปื้อนหรือเปล่า หากมีให้เช็ดออก รอยเปื้อนก็จะหายไป
แกนของโทนเนอร์คาทริดจะมีลักษณะเหมือนแก้วสีเขียว ในการเช็ดที่แกนของโทนเนอร์คาทริดต้องระวังอย่าให้มือของคุณไปโดน เพราะหากนิ้วคุณไปแตะรอยเปื้อนที่พิมพ์ ออกมาก็จะกลายเป็นรอยนิ้วมือคุณ
• ปัญหา Hdd Controller Fail
สาเหตุที่ 1 เกิดจาก Controller มีปัญหา
สาเหตุที่ 2 เกิดจากค่าของฮาร์ดดิสก์ที่ตั้งไว้ใน Cmos กับฮาร์ดดิสก์ที่เสียบอยู่ไม่ตรงกัน ปัญหานี้มักจะมาจาก การถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์บ่อย ๆ แล้วลืม Set Cmos
สาเหตุที่ 3 เกิดจากฮาร์ดดิสก์ไม่มีไฟเข้า สายไฟอาจจะหลวมหรือลืมเสียบ บางครั้งเมื่อถอด ฮาร์ดดิสก์ออกมา แล้วก็อาจลืมเสียบสายไฟ ในขณะที่ค่าของฮาร์ดดิสก์นั้นยังอยู่ใน Cmos หากไม่ตั้งค่าใน Cmos ที จะกลายเป็น Auto Detect ไม่เจอ หรือไม่ก็สายไฟชำรุด สายอาจจะขาดข้างใน
สาเหตุที่ 4 อาจจะเกิดจากความไม่เข้ากันของฮาร์ดดิสก์ ในกรณีที่มีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ 2 ตัว ถึงแม้ว่า Cmos จะรับรู้ว่ามีอาร์ดดิสก์อยู่ 2 ตัว แต่ก็ไม่สามารถทำงานไม่ได้ อาการนี้มักจะเจอกับการต่อฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่พ่วงกับรุ่นเก่าบางยี่ห้อบางรุ่น
สาเหตุที่ 5 อาจเกิดจากการต่อ Controller 2 ชุด ทำให้อินเตอร์รับชนกัน เกิดได้จากการที่เสียบ Controller เป็นการ์ดลงบนเมนบอร์ดที่มี controller อยู่บนบอร์ด แล้วลืมยกเลิก Controller ตัวใดตัวหนึ่ง
สาเหตุที่ 6 อาจเกิดจากเสียบสาย Controller กลับขั้ว ลองสังเกตุที่รอยบาก 2 ข้างของสาย Controller ดู ว่ารอยบากหงายหรือคว่ำ หากคว่ำฮาร์ดดิสก์รอยบากจะต้องหงาย
สาเหตุที่ 7 อาจเกิดจากสายสัญญาณ (สาย Controller) ชำรุด
• ปัญหา Memory Parity Error
ในสมัยก่อนจะเกิดจาก Ram มีปัญหา แต่ในสมัยนี้ Ram ชนิดมี Parity แทบจะไม่มี ใครใช้กันเลย (ที่ไม่ใช้เพราะแพงครับ เป็นของดี แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ แถมยังหายากด้วย) เกิดจากการเลือกค่า Parity เป็น Enable ใน Cmos ครับ ให้เปลี่ยนเป็น Disable เพราะ Ram สมัยนี้เป็นแบบไม่มี Parity ทั้งนั้น ที่ขึ้น Error ก็เพราะว่าเมื่อมีการตรวจสอบวงจร Parity ใน Ram ไม่พบจึง Error ครับ
• สีของจอภาพเพี้ยน เดี๋ยวเหลือง เดี๋ยวแดง
เกิดจากสายสัญญาณควบคุมของจอที่เสียบกับการ์ดแสดงผลหลวม
• ปัญหา Fdd Controller Fail
หากไดรว์ไม่เสีย ก็สายไฟหลวม หรือไม่ก็เสียบสาย Controller ของไดรว์ผิด ในกรณีที่คุณไม่มั่นใจว่าเสียบสาย Controller ของไดรว์ถูกหรือไม่ ให้ทำดังนี้
1. ไดรว์ A จะต้องใช้หัวเสียบที่อยู่ที่ปลายสายสัญญาณ หัวเสียบจะมี 2 ชุดที่เหมือนกัน หากเอาหัวเสียบที่อยู่ตรงกลางมาเสียบก็จะ Error
2. หากไฟค้างที่ไดรว์ตลอดก็แสดงว่าเสียบสายผิดชัวร์
• ปัญหา Drive Not Ready
1. ให้ดูว่าแผ่นดิสก์เสียหรือเปล่า
2. หากแผ่นไม่เสียก็ดูว่าก่อนจะขึ้นคำว่า Drive Not Ready นั้น ไฟที่ไดรว์ติด หรือเปล่า หากไฟติดปัญหาก็ควรจะอยู่ที่ไดรว์ ตัวตรวจจับของไดรว์อาจจะผิดพลาด หัวอ่านข้างใน หรือมอเตอร์ที่จับดิสก์เกิดความคลาดเคลื่อน ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาทางกลไกของตัวไดรว์เอง
3. ถ้าไฟไม่ติดก็หมายความว่า สายไฟที่เสียบไดรว์หลวม หรือลืมเสียบ
• Hdd Secondary Fail
เกิดจากต่อฮาร์ดดิสก์ 2 ตัวแล้วถอดตัวที่ 2 ออก แต่ไม่ได้ยกเลิกค่าที่อยู่ใน Cmos ดังนั้นเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาแล้ว Cmos หาอาร์ดดิสก์ตัวที่ 2 ไม่เจอจึง Error
• Keyboard Error
สาเหตุที่ 1 เสียบหัวแจ๊ก Keyboard ไม่แน่น
สาเหตุที่ 2 ตัว connector ของ Keyboard ที่อยู่บนเมนบอร์ดเสีย เนื่องมาจากลายพริ๊นของเมนบอร์ดแถวนั้นถูกกรดจากแบตเตอรี่กัดจนพัง
สาเหตุที่ 3 เกิดจาก Rom Keyboard เสียหรือรวน
สาเหตุที่ 4 เกิดจาก Keyboard บางตัวไม่เข้ากับเมนบอร์ด
• เครื่องทำงานช้าลง หาสาเหตุไม่เจอ
เครื่องของผมเครื่องนึงเกิดทำงานช้ากว่าปกติ อาการนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยอาการช้านี้จะช้าลงไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา อย่างในช่วงแรกช้าลงนิดหน่อย แต่พอเวลาผ่านไปหลาย ๆ เดือนอาการยิ่ง ปรากฏชัด คือ ช้าลงอีกจนน่าเบื่อ ผมลองตรวจสอบอุปกรณ์รอบข้างว่าจะมีอะไรรวนหรือเปล่า ก็ไม่เจอ ทุกอย่างปกติดี รวมทั้งฮาร์ดดิสก์ก็ปกติ ไวรัสก็ไม่มี สุดท้ายก็เจอปัญหาอยู่ที่เมนบอร์ดครับ มีอุปกรณ์บางอย่างเสื่อมสภาพ ปัญหานี้จะเกิดกับเมนบอร์ดที่ใกล้จะหมดอายุการใช้งานแล้ว



• จอภาพใช้งานอยู่แล้วดับ ปิดเปิดใหม่ทันทีไม่ติด ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง จึงจะใช้ได้ แต่ไม่นานก็ดับอีก
อาการเสียนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีอุปกรณ์บางตัวเสื่อม เช่น R หรือ C ในวงจร แต่โดยมากจะเป็นที่ตัว ฟลายแบ็คของจอภาพครับ
• มีเสียง ตื๊ดดดดด ยาว หนึ่งครั้ง และเสียงตื๊ดสั้น ๆ ติด ๆ กัน หลายครั้ง
เป็นสัญญาณที่เครื่องฟ้องว่า การ์ดควบคุมจอภาพหลวม หรือ ไม่ได้เสียบไว้ในเครื่อง ให้ตรวจสอบดูว่าการ์ดควบคุมจอภาพหลวมหรือเปล่า หากไม่หลวมก็ให้ถอดออกแล้วใส่กลับไปใหม่ แต่หากยังไม่ได้ผลก็ถอดออกมา แล้วใช้ยางลบ ลบที่ขาที่เป็นทองแดงของตัวการ์ดเพื่อทำความสะอาด แล้วเสียบกลับเข้าไปดังเดิม
• ข้อพึงระวังในการยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม
1. ควรดูให้ดีหากมีคำถามหรือคำชี้แนะที่โปรแกรมนั้นบอกหรือถามมา
2. ในการลบไฟล์ใดทิ้ง ควรหลีกเลี่ยงที่จะไม่ลบไฟล์ที่มีความสัมพันธ์กับวินโดว์ ดูได้ในขณะที่ทำการยกเลิกการติดตั้ง โปรแกรมนั้นจะชี้แนะคุณเอง ถ้าไม่แน่ใจอย่าตอบว่าลบเด็ดขาด เพราะวินโดว์อาจจะพังก็ได้
3. หากต้องการลบ Internet Explorer 3 ที่มากับวินโดว์ 95 อย่าใช้โปรแกรมสำหรับยกเลิกการติดตั้งเด็ดขาด (ลองมาแล้ว วินโดว์ติ๊งต๊องไปเลย) หากต้องการลบให้ทำดังนี้
3.1 ลบช็อตคัทและไอคอนของ Internet Explorer 3 ในเดสท็อปและในสตาร์ตเมนูของวินโดว์
3.2 ลบไรกทอรี่ c:\progra~1\intern~1 ทิ้งไป วิธีนี้ถึงแม้จะคงเหลือเศษชิ้นส่วนของ Internet Explorer อยู่บ้างในวินโดว์ แต่ก็ปลอดภัยดี
• ปัญหา General Protection Fault
สาเหตุที่ 1 เกิดจาก Ram , Mainboard , Controller มีปัญหา
สาเหตุที่ 2 แอพพลิเคชั่นตัวที่เปิดขึ้นมาแล้วเกิด General Protection Falut เนื่องจากไม่สมบูรณ์
สาเหตุที่ 3 เนื่องจากเปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวจนหน่วยความจำในวินโดว์ไม่เพียงพอที่จะรองรับ
สาเหตุที่ 4 เนื่องจากแอพพลิเคชั่น หรือ ดาต้าของแอพพลิเคชั่น มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่หน่วยความจำจะรองรับได้ ซึ่งทั้งสาเหตุที่ 3 และ 4 เป็นเรื่องของการครอบครองทรัพยากรทั้งหมดของวินโดว์
สาเหตุที่ 5 เกิดจากวินโดว์มีปัญหา หรือ ซอร์ฟแวร์ที่โหลดฝังตัวในหน่วยความจำบางตัว เป็นต้นเหตุ มักจะเป็น โปรแกรมประเภท Monitor ที่ต้องฝังตัวในหน่วยความจำไว้ตรวจจับการทำงานของโปรแกรมอื่น เช่น โปรแกรม Monitor ของโปรแกรมต่อต้านไวรัสต่าง ๆ
สาเหตุที่ 6 ไดรเวอร์ หรือค่า IRQ ของฮาร์ดแวร์บางตัวชนกันในขณะที่มีการเรียกใช้งาน
สาเหตุที่ 7 เนื่องจากมีแอพพลิเคชั่นก่อนหน้าที่มีปัญหา ทำให้แอพพลิเคชั่นที่เปิดทีหลังทำงานไม่ได้
สาเหตุที่ 8 เนื่องจากแอพพลิเคชั่นบางตัวเมื่อเปิดขึ้นมา แล้วเก็บทรัพยากรไว้ไม่ยอมคืนให้วินโดว์ หลังจากที่ใช้เสร็จ

• เครื่องรู้จัก CD-ROM บ้าง ไม่รู้จักบ้าง
อาการนี้เป็นที่ตัวคอนโทรลเลอร์มีปัญหา ไม่ได้เป็นที่ตัว CD-ROM สามารถทดสอบได้โดยการถอด CD-ROM ไปใส่เครื่องอื่นตั้งแต่รุ่น Pentium ขึ้นไป หาก CD-ROM ปกติ ระบบการ ตรวจสอบ Plug & Play ของเมนบอร์ดก็จะพบ CD-ROM ทันทีที่ Boot เครื่อง
• เวลาฟังเพลงกับ CD เสียงหาย แต่เล่นเกมส์หรือดูหนังกลับมีเสียง
ปัญหานี้เกิดจากสายส่งสัญญาณเสียงระหว่าง CD-ROM กับซาวด์การ์ดไม่ได้ต่อกัน หรือต่อไม่ถูกต้องเสียงจึงไม่ออก ซึ่งโดยปกติหากต่อสายถูกต้อง เมื่อมีการเปิดเพลงจาก CD-ROM สัญญาณเสียงจะถูกส่งจาก CD-ROM ไปสู่ซาวด์การ์ด เพื่ออกสู่ลำโพงโดยตรง วิธีแก้ไข ให้เปิดฝาครอบคอมพิวเตอร์ออกมาแล้วดูว่ามีสายเส้นเล็ก ๆ เสียบอยู่ระหว่าง CD-ROM กับซาวด์การ์ดหรือไม่ หากไม่มีก็ให้หาสายมาเสียบ(สายจะแถมมากับเครื่อง CD-ROM ตอนซื้อมา) แต่หากเสียบแล้วก็ให้ลองกลับทางของสายที่เสียบอยู่ที่ CD-ROM และซาวด์การ์ด แล้วทำการทดสอบดู หากยังไม่มีเสียงก็กลับทางหัวเสียบของสายกับซาวด์การ์ดดูบ้าง ทำอย่างนี้จนกว่าจะมีเสียง
• ไอคอนของ Volume Control ขึ้นปกติและปรับเสียงได้ แต่เสียงกลับไม่ออกเลย
ปัญหานี้เกิดจากตัว Plug & Play ของตัววินโดว์เอง เกิดการตรวจสอบซาวด์การ์ดผิดพลาด จึงติดตั้งไดรเวอร์ที่ไม่ตรงกับของซาวด์การ์ดนั้น เพียงแต่ค่าต่าง ๆ ของตัวซาวด์การ์ดตรงกันหรือ Compatible กันกับไดรเวอร์ที่วินโดว์ติดตั้งมาให้จึงสามารถปรับ Volume Control ได้ปัญหานี้พบในซาวด์การ์ดรุ่นเก่า ไม่มีไดรเวอร์บนวินโดว์ 95 วินโดว์เข้าใจว่าเป็น Creative Sound Pro
• Connect เข้าอินเตอร์เน็ตได้ปกติ แต่เปิดเข้าเว็ปไซด์ใดไม่ได้เลย
สาเหตุที่ 1 ปัญหานี้เป็นที่โมเด็มหรือเครื่องอาจจะเพี้ยนไปชั่วคราว วิธีแก้ไขก็คือ Disconnect แล้วปิดเครื่อง เปิดใหม่ แล้ว Connect ใหม่ก็จะหาย อย่างเครื่องของผมเองก็เคยเจอปัญหานี้หลายครั้ง
สาเหตุที่ 2 เกิดจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Down
สาเหตุที่ 3 เป็นที่ตัวซอฟต์แวร์เบราเซอร์เองมีปัญหา ที่ผมเคยเจอก็คือ Internet Explorer 5 เสีย
สาเหตุที่ 4 เกิดจากการถอนโปรแกรมจัดการ Cache ของเบราเซอร์ออกจากหน่วยความจำ
• เครื่องติดไวรัส Format ฮาร์ดดิสก์แล้วไวรัสก็ยังอยู่
เกิดจากการสั่ง Format ฮาร์ดดิสก์จากซิสเต็มที่มีไวรัสนั้นอยู่ ทำให้หลังจาก Format แล้วไวรัสนั้นก็กลับมาอยู่เหมือนเดิม ซึ่งไวรัสบางชนิดจะฝังตัวใน Boot Sector , Partition ของฮาร์ดดิสก์ และในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ หากทำการ Format ขณะที่ไวรัสยังอยู่ในหน่วยความจำ ก็ไร้ค่า
วิธีแก้ไขก็คือ
1. ให้ใช้แผ่นดิสก์ที่เป็น Emergency Boot Disk ที่ปลอดไวรัสมา Boot ที่ไดรว์ A ก่อน
2. ใช้คำสั่ง FDISK/MBR
3. สร้าง Partition ให้กับ Hard Disk ใหม่แล้วจึงใช้คำสั่ง Format ในดิสก์
• ต่อเข้าอินเตอร์เน็ตแล้วเจอข้อความ
The modem is not plugged in or out of service.
Connect a modem to your computer and try again.
สาเหตุที่ 1 ไม่ได้ต่อโมเด็มในเครื่อง(ถ้าเป็น Internal) หรือ ไม่ได้กดปุ่ม Power หรืออาจลืมเสียบสายไฟของโมเด็ม (หากเป็น External)
สาเหตุที่ 2 ไดรเวอร์ของโมเด็มถูกปิดอยู่ หรือ ค่า IRQ ของโมเด็มซ้ำกับฮาร์ดแวร์ตัวอื่น หรือ ไดรเวอร์ไม่ถูกต้อง
สาเหตุที่ 3 โมเด็มอาจมีปัญหา วินโดว์จึงมองไม่เห็น
สาเหตุที่ 4 เกิดจาก com port ถูกปิด หรือ ค่า IRQ ของพอร์ตซ้ำกับฮาร์ดแวร์ตัวอื่น หรือ ยังไม่ได้ติดตั้ง
• There is no dial tone
Make sure your modem is connected to the phone line properly.
There is no dialtone
Make sure your modem is connected to the phone line properly.
สาเหตุที่ 1 เกิดจากสายโทรศัพท์ เช่น สัญญาณไม่ดี , สายมีความชื้นสูง โดยเฉพาะที่กล่องเชื่อมสายโทรศัพท์
สาเหตุที่ 2 เกิดจากเสียบสายสัญญาณโทรศัพท์เข้าสลับกับสายสัญญาณโทรศัพท์ ที่รูเสียบที่โมเด็มสลับกัน สาเหตุที่ 3 วางหูโทรศัพท์ไม่สนิทหรือกำลังใช้สายโทรศัพท์อยู่
• สายหลุดขณะเล่น Internet เมื่อมีสายนอกเรียกเข้ามา (เฉพาะผู้ที่ใช้บริการสายเรียกซ้อน)
บริการสายเรียกซ้อนนี้จะมีทั้งของผู้ให้บริการจากองค์การโทรศัพท์ และ TT&T คุณสามารถกำหนดและยกเลิกได้ด้วยตัวคุณเองดังนี้
- ใช้บริการสายเรียกซ้อน ยกหูขึ้นมาแล้วกด * 43 #
- ยกเลิกบริการสายเรียกซ้อน ยกหูขึ้นมาแล้วกด # 43 #
หมายเหตุ จะกำหนดกี่ครั้งก็ได้ ส่วนเรื่องการใช้บริการพิเศษอย่างอื่นของโทรศัพท์ คุณสามารถดูได้ จากคู่มือบริการพิเศษจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ของคุณ (ต้องไปขอนะ) ส่วนของผมไม่ได้ใช้บริการสายเรียกซ้อนมาตั้ง แต่ต้น จึงไม่เคยมีปัญหานี้ แต่ขณะที่ลองกับเครื่อง หลายเครื่องกับหมายเลขอื่น กลับยังพบว่าสายยังหลุดเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามา
• Error loading ( ตามด้วยชื่อไฟล์ที่มีปัญหา ) you must reinstall Windows.
อาการนี้เมื่อเกิดขึ้น วินโดว์จะรายงาน Error ที่เกิดขึ้นแล้วก็จะรีบทำการ Shutdown เช่น
Error loading GDI.exe you must reinstall Windows.
สาเหตุที่ 1 เกิดจากไม่มีไฟล์นั้นอยู่
สาเหตุที่ 2 เกิดจากไฟล์นั้นเสียหาย
วิธีแก้ไขของทั้ง 2 สาเหตุ ก็คือ ให้ไป Copy ไฟล์นั้นมาใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น